CMS คืออะไร : "ความลับ" ที่ทำให้คุณสร้างเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด

มาเปิด "ความลับ" CMS ที่ช่วยให้คุณ รับทำเว็บไซต์ ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด! ทำความเข้าใจว่า CMS คืออะไร ข้อดี และ CMS ยอดนิยมที่ใช้สร้างเว็บค่ะ

ทำไม CMS ถึงเป็นทางออกสำหรับคนอยากมีเว็บไซต์แต่ไม่อยากเขียนโค้ด?

เมื่อก่อน ถ้าอยากมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองเนี่ย ต้องจ้างโปรแกรมเมอร์ หรือไม่ก็ต้องไปนั่งเรียนเขียนโค้ดเป็นเดือน ๆ เลยครับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมครับ? แต่ในยุคนี้ การ รับทำเว็บไซต์ กลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาก ๆ ด้วยนวัตกรรมที่เรียกว่า CMS นี่แหละครับ มันเหมือนเป็นแพลตฟอร์มสำเร็จรูป ที่ช่วยให้เราจัดการเนื้อหา รูปภาพ วิดีโอ หรือแม้แต่ฟังก์ชันต่าง ๆ บนเว็บไซต์ได้ง่าย ๆ ผ่านหน้าจอหลังบ้าน เหมือนกับการใช้โปรแกรม Word หรือ PowerPoint เลยครับ ไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดแม้แต่น้อย นี่คือสิ่งที่ทำให้ CMS เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน และเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การมีเว็บไซต์เป็นเรื่องที่จับต้องได้สำหรับทุกคนครับ

CMS คืออะไรกันแน่?

CMS ย่อมาจาก Content Management System หรือ ระบบจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ ครับ พูดง่าย ๆ มันคือซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้คุณสามารถสร้าง แก้ไข จัดการ และเผยแพร่เนื้อหาบนเว็บไซต์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด (Coding) เลยครับ มันจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างผู้ใช้งานกับฐานข้อมูลและโครงสร้างของเว็บไซต์ ทำให้คุณสามารถโฟกัสกับการสร้างสรรค์เนื้อหาและการออกแบบหน้าตาของเว็บไซต์ได้อย่างเต็มที่

ลองนึกภาพดูนะครับ ปกติแล้วการสร้างเว็บไซต์ต้องเขียนโค้ดเยอะแยะไปหมด ทั้ง HTML, CSS, JavaScript, PHP และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ CMS จะเข้ามาจัดการเรื่องโค้ดเหล่านี้ให้เราทั้งหมด เราแค่เข้ามาจัดการข้อมูลผ่านระบบหลังบ้านที่ใช้งานง่าย ๆ เท่านั้นเองครับ

 

ทำไม CMS ถึงเป็นที่นิยมในการรับทำเว็บไซต์?

มีเหตุผลหลายข้อเลยครับที่ทำให้ CMS กลายเป็นเครื่องมือยอดนิยมในการ รับทำเว็บไซต์ และเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของทั้งผู้เริ่มต้นและมืออาชีพ

 

  1. ใช้งานง่าย ไม่ต้องเขียนโค้ด : นี่คือข้อดีอันดับหนึ่งเลยครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มีความรู้ด้านเทคนิคมากน้อยแค่ไหน ก็สามารถสร้างและจัดการเว็บไซต์ได้เอง คุณสามารถเพิ่มหน้าใหม่ ๆ อัปเดตบทความ ใส่รูปภาพ หรือแม้แต่วิดีโอได้อย่างง่ายดาย แค่คลิกไม่กี่ครั้ง                                                                        
  2. ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย : แทนที่จะต้องจ้างโปรแกรมเมอร์มาเขียนโค้ดตั้งแต่ต้น ซึ่งใช้เวลาและงบประมาณสูงมาก CMS ช่วยให้คุณประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเว็บไซต์ได้อย่างมหาศาลครับ ทำให้การ รับทำเว็บไซต์ เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน                                                                         
  3. มี Template และ Theme ให้เลือกเยอะมาก : CMS ส่วนใหญ่จะมี Template หรือ Theme สำเร็จรูปให้เลือกใช้มากมาย ซึ่งแต่ละ Theme ก็จะมีดีไซน์และฟังก์ชันที่แตกต่างกันไป คุณสามารถเลือก Theme ที่ตรงกับความต้องการและภาพลักษณ์ของธุรกิจของคุณได้เลย และยังปรับแต่งเพิ่มเติมได้อีกด้วย                      
  4. มี Plugin และ Extension เพิ่มฟังก์ชันได้ไม่จำกัด : นี่คืออีกหนึ่งความเจ๋งของ CMS ครับ ถ้าคุณอยากเพิ่มฟังก์ชันพิเศษให้กับเว็บไซต์ เช่น ระบบร้านค้าออนไลน์ (e-commerce), ฟอร์มติดต่อ, ระบบจองคิว, หรือระบบ SEO คุณสามารถติดตั้ง Plugin หรือ Extension เพิ่มเติมได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเลย             
  5. SEO Friendly : CMS ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับ Search Engine อย่าง Google ครับ มีฟังก์ชันและ Plugin ที่ช่วยให้เราปรับแต่งเว็บไซต์ตามหลัก SEO ได้ง่ายขึ้น ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดอันดับการค้นหาได้ดีขึ้น                                                                                               
  6. จัดการได้ทุกที่ ทุกเวลา : คุณสามารถเข้าถึงและจัดการเว็บไซต์ผ่าน CMS ได้จากทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน ร้านกาแฟ หรือระหว่างเดินทาง ก็สามารถอัปเดตเว็บไซต์ได้ตลอดเวลา

 

 

CMS ยอดนิยมที่คนใช้รับทำเว็บไซต์กัน

มี CMS หลายตัวให้เลือกใช้ครับ แต่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากและเป็นที่รู้จักกันดีในการ รับทำเว็บไซต์ ก็คือ

 

  • WordPress : นี่คือ CMS ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลกเลยก็ว่าได้ครับ ข้อมูลล่าสุดบอกว่าเว็บไซต์กว่า 40% ทั่วโลกใช้ WordPress เป็นแพลตฟอร์ม มี Theme และ Plugin ให้เลือกใช้เยอะมาก รองรับการทำเว็บไซต์ได้หลากหลายประเภท ตั้งแต่บล็อกส่วนตัว เว็บไซต์ธุรกิจ ไปจนถึงร้านค้าออนไลน์

 

  • Joomla! : เป็นอีกหนึ่ง CMS ที่ได้รับความนิยม มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดกลางถึงใหญ่ ที่ต้องการฟังก์ชันซับซ้อนมากขึ้นเล็กน้อย

 

  • Drupal : เป็น CMS ที่มีความแข็งแกร่งและปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ หรือเว็บไซต์ขององค์กรภาครัฐ ที่ต้องการความมั่นคงและประสิทธิภาพสูง

 

  • Shopify : เป็น CMS ที่ออกแบบมาเพื่อการสร้างร้านค้าออนไลน์โดยเฉพาะ ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันสำหรับการขายสินค้าครบวงจร ไม่ต้องกังวลเรื่องเทคนิคมากนัก

 

  • Wix / Squarespace : เป็นแพลตฟอร์ม Website Builder ที่มี CMS ในตัว ใช้งานง่ายมาก ๆ ด้วยระบบลากและวาง (Drag-and-Drop) เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการสร้างเว็บไซต์สวย ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

 

การเลือก CMS ที่เหมาะสม

การเลือก CMS ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและเป้าหมายของเว็บไซต์คุณเลยครับ

 

  • ถ้าเป็นมือใหม่ อยากได้ใช้ง่าย ฟังก์ชันครบ : WordPress คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุดครับ เพราะมี Community ใหญ่ มีคนทำ Tutorial เยอะแยะไปหมด

 

  • ถ้าเป็นร้านค้าออนไลน์ เน้นขายของ : Shopify คือคำตอบที่ตรงจุดที่สุดครับ

 

  • ถ้าต้องการความยืดหยุ่นสูง หรือเว็บไซต์องค์กรใหญ่ : Joomla! หรือ Drupal อาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า

 

สรุป : CMS คือกุญแจสำคัญสู่โลกออนไลน์

การทำความเข้าใจว่า CMS คืออะไร และใช้งานมันให้เป็น จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้คุณสามารถสร้างและจัดการเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ ไม่ว่าคุณจะกำลังคิดจะ รับทำเว็บไซต์ ด้วยตัวเอง หรือกำลังมองหาผู้ให้บริการ CMS ก็เป็นสิ่งที่คุณควรทำความรู้จักไว้เลยครับ เพราะมันจะเปลี่ยนความคิดที่ว่า "การมีเว็บไซต์เป็นเรื่องยาก" ให้กลายเป็น "ใคร ๆ ก็ทำได้" ทันทีครับ! หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และทำให้คุณเห็นภาพของ CMS ได้ชัดเจนขึ้นนะครับ ถ้ามีคำถามอะไรเพิ่มเติม ถามมาได้เลยนะ ยินดีช่วยเสมอครับ!